การอ่านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างมหาศาล ไม่เพียงช่วยให้ได้รับความรู้และขยายมุมมองเท่านั้น แต่ยังเป็นการพักผ่อนจิตใจและฝึกสมาธิได้อย่างน่าอัศจรรย์ หากสามารถทำให้การอ่านกลายเป็นกิจวัตรประจำวันได้ ก็จะนำพาชีวิตให้รุ่งเรืองทั้งร่างกายและจิตใจ มีความสุขและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
ความรู้และมุมมองที่กว้างขวางขึ้น การอ่านหนังสือเป็นประจำจะช่วยให้เราได้รับความรู้และข้อมูลใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เชิงวิชาการ ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน หรือแม้แต่เรื่องราวประสบการณ์ชีวิตของผู้คนในสังคมอื่น ความรู้เหล่านี้จะขยายมุมมองและทัศนคติของเราให้กว้างไกลและเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้มีความคิดที่หลากหลายและเข้าใจความแตกต่างของผู้คนได้ดีขึ้น
การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ นอกจากความรู้แล้ว การอ่านอย่างสม่ำเสมอยังช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาลึกซึ้งและมีรายละเอียดซับซ้อน เราจะต้องใช้ความคิดตีความ วิเคราะห์ข้อมูลและเชื่อมโยงข้อเท็จจริงต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งจะฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ให้คมกริบและแยบคายมากยิ่งขึ้น
การผ่อนคลายความเครียดและฝึกสมาธิ การอ่านหนังสือดีๆ นอกจากจะให้ความรู้แล้ว ยังช่วยผ่อนคลายความเครียดและฝึกสมาธิได้อีกด้วย เมื่ออ่านหนังสือเราต้องตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือและเนื้อเรื่อง จิตใจจึงได้พักจากความคิดวุ่นวายต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นการผ่อนคลายจากการใช้สายตาจากจอคอมพิวเตอร์หรือมือถืออีกด้วย
การเสริมสร้างนิสัยการอ่านประจำวัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการอ่านอย่างเต็มที่ การสร้างนิสัยการอ่านเป็นประจำทุกวันจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเริ่มต้นด้วยการกำหนดเวลาอ่านที่แน่นอน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงต่อวัน ควรอ่านในสถานที่ที่เงียบสงบและสบายตา จัดพื้นที่หรือมุมอ่านหนังสือเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีต่อการอ่าน อีกทั้งควรเลือกหนังสือที่ตนเองสนใจ เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน
สรุป
การสร้างกิจวัตรการอ่านหนังสือเป็นประจำทุกวัน จะนำพาประโยชน์มากมายเข้ามาสู่ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้และขยายมุมมอง การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การผ่อนคลายจิตใจและฝึกสมาธิ หากปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จในทุกๆ ด้านของชีวิตอย่างแน่นอน